วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2557

วิธีฝึกการพูดของ หลวงวิจิตรวาทการ


วิธีฝึกการพูดของ หลวงวิจิตรวาทการ

โดย..ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์

อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก


                หลวงวิจิตรวาทการ เป็นบุคคลที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ชาติไทยเรา ท่านได้ทำงานในหลากหลายบทบาท เริ่มจากการเป็นนักธรรม เป็นข้าราชการ เป็นนักการเมือง เป็นนักการทูต เป็นอาจารย์ เป็นนักประพันธ์ เป็นนักปราชญ์ จากบทบาทต่างๆข้างต้น ได้ส่งผลให้ท่านได้รับตำแหน่งมากมาย เช่น

อธิบดีกรมกรมพิธีการทูต , รัฐมนตรีและอธิบดีกรมศิลปากร , รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ , รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ,  เอกอัครราชทูตไทยประจำอินเดีย , สวิตเซอร์แลนด์ , ออสเตรีย และยูโกสลาเวีย เป็นต้น  และได้รับยศทางทหารสูงสุดถึง พลตรี

                ในด้านการพูดท่านเป็นนักพูดที่มีชื่อเสียง ท่านเป็นนักพูดทางวิชาการที่สามารถพูดเนื้อหาสาระซึ่งฟังได้อย่างเพลิดเพลิน การใช้ถ้อยคำของท่านใช้ถ้อยคำที่ง่ายๆ เต็มไปด้วยพลัง มีการลำดับขั้นตอนที่ไม่สับสน มีลีลาการพูดที่เรียบร้อย แต่สามารถตรึงความสนใจของผู้ฟังตั้งแต่ต้นจนจบ

                หลวงวิจิตรวาทการ ไม่ได้เป็นคนพูดเก่งมาตั้งแต่เกิด แต่ตรงกันข้าม หลวงวิจิตรวาทการเป็นคนที่พูดติดอ่าง ซึ่งเป็นอุปสรรคเป็นอันมากต่อการสื่อสาร หลังจากนั้นท่านได้ทำการแก้ไขตนเองจนกระทั่งพัฒนาตนเองมาเป็นนักพูดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของชาติไทย สำหรับคนที่มีปัญหาพูดติดอ่าง ท่านได้แนะนำวิธีการแก้ไข การพูดติดอ่างไว้ 2 ประการ คือ

1.พยายามทำให้คำพูดหนักแน่นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ

2.พยายามเป็นนายตัวเอง และมีดวงจิตเป็นสมาธิแน่วแน่อยู่เสมอ  

สำหรับวิธีฝึกการพูดของ หลวงวิจิตรวาทการ ท่านได้แสดงปาฐกถาและมีคนนำเอามาทำเป็นหนังสือเป็นจำนวนมาก ปาฐกถา ชื่อเรื่อง สมบัติของนักพูด โดยมีใจความสรุปย่อๆดังนี้

ประการที่ 1 จงทำตัวให้เป็นคนทันสมัย ทันเหตุการณ์ ท่านแนะนำให้อ่านหนังสือพิมพ์รายวันฉบับที่ดีๆ อย่างน้อยวันละฉบับ การอ่านหนังสือพิมพ์จะทำให้เราพูดเก่ง มีเรื่องที่จะสนทนาและทำให้เป็นคนที่ทันสมัยอยู่เสมอ

ประการที่ 2 พยายามท่องจำสุภาษิต คำพังเพย ให้มากๆ เพราะสุภาษิตหรือคำพังเพย เหล่านี้กว่าจะมีขึ้นมาได้ ผู้ตั้งสุภาษิตหรือคำพังเพยต้องใช้เวลาคิดแล้วคิดอีก ผู้ที่จดจำสุภาษิตได้มากๆย่อมสามารถคิดคำพูดที่สละสลวยขึ้นมาได้

ประการที่ 3 เวลาอ่านหนังสือต่างๆ ที่มีผู้แต่งดีๆ ควรจะจดถ้อยคำที่คมคายเอาไว้ เพื่อใช้ในการพูด และควรที่จะท่องจำให้ได้มากๆ เพราะถ้าหากเราท่องจำได้มากๆ ย่อมจะทำให้เราเกิดมีความคิดที่จะหาคำพูดที่คมคายใหม่ๆ มาเป็นของเราได้

ประการที่ 4 สมาธิ คือ ความคิดแน่วแน่อยู่ในถ้อยคำที่เราพูด อย่าให้มีอะไรมารบกวนใจในเวลาพูด เป็นนายของตนเอง มีดวงจิตที่แน่วแน่ อีกทั้งควรพูดให้มีน้ำหนักคือจะต้องพูดให้ชัดถ้อยชัดคำ รู้จักเน้นคำตรงที่ควรจะเน้น ส่วนเสียงไม่ดีไม่เป็นของสำคัญ เพราะคนที่มีเสียงไม่ดีเลย แต่ก็เป็นนักพูดที่ดีก็มีถมไป แต่ควรพูดให้เกิดความกระจ่างแจ้ง ควรพูดช้าๆให้เป็นจังหวะสม่ำเสมอ บางประโยคก็ควรพูดเร็วกว่าธรรมดา หรือควรพูดช้ากว่าธรรมดา อีกประการหนึ่งที่หลวงวิจิตรวาทการให้คำแนะนำคือ ท่าทาง มีคนเป็นจำนวนมากคิดว่า การออกท่าทางประกอบการพูดให้มากๆ เป็นการดี แต่ที่จริงแล้วจะกลับทำให้คำพูดเสียไป หลวงวิจิตรวาทการ สังเกตจากการที่ท่านได้เข้าร่วมประชุมนานาประเทศครั้งใหญ่ๆ ท่านสังเกตเห็นว่า นักพูดที่เก่งที่สุดนั้น เขาจะใช้ท่าทางน้อยที่สุด เขาจะระวังไม่ให้โยกโคลง แต่จะมีการเคลื่อนไหวบ้างก็แต่เล็กน้อย และมีการเคลื่อนไหวที่มีความหนักแน่นอยู่ในตัวเสมอ

ทั้ง 4 ประการนี้ ข้างต้นนี้ ท่านสามารถหาอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจากหนังสือ การพูดเบื้องต้น ของ รศ.ฉัตรวรุณ  ตันนะรัตน์ ซึ่งเป็นหนังสือเรียนรายวิชา MC130 ของมหาวิทยาลัยรามคำแหง

 

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น