วันเสาร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ก้าวสู่อาชีพนักเขียน


ก้าวไปสู่อาชีพนักเขียน
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์(ดร.โทนี่)
                อาชีพนักเขียนเป็นอาชีพอิสระ เป็นอาชีพที่มีรายได้ไม่จำกัดจำนวน เช่น นักเขียนนิยายท่านหนึ่งมีผลงานรวมเล่ม 50 ปก เฉลี่ยราคาปก 300 บาท จำนวนพิมพ์แต่ละปก 3,000 เล่ม ค่าเรื่องของนักเขียน 10 เปอร์เซ็นต์ ของราคาปก ดังนั้นนักเขียนท่านนี้จะมีรายได้ เท่ากับ 50 คูณ 300 คูณ 3,000 คูณ 10 เปอร์เซ็นต์ รวมแล้วเท่ากับ 4,500,000 บาท หรือ นักเขียนอีกท่านหนึ่งซึ่งกระผมไม่ขอเอ๋ยนาม เขียนเรื่องลงในนิตยสาร วารสาร หลายแห่ง มีการใช้นามปากกาถึง 20 นามปากกา นักเขียนท่านนี้เขียนงานได้หลายประเภท เช่น เรื่องการเมือง เศรษฐกิจ สังคม เรื่องสั้น  โดยเฉพาะนิยาย นักเขียนท่านนี้ต้องเขียนทุกๆวันจำนวนถึง 3 ตอนหรือ 3 เรื่อง บางวันต้องเขียนถึง 4 ตอนหรือ 4 เรื่อง ทำให้ได้ผลงานประมาณ 100 ตอนหรือ 100 เรื่องต่อเดือน โดยได้รับค่าเรื่องหรือค่าบทความในความยาวประมาณ 1 หน้า A4 ประมาณ 300-1.500 บาท (แล้วแต่ความยากง่ายและการกำหนดค่าเรื่องหรือค่าบทความของนิตยสาร วารสารนั้น) นักเขียนท่านนี้ได้รับค่าตอบแทนประมาณ 40,000-60,000บาทต่อเดือน ท่านอาจตกใจว่าเป็นความจริงหรือ เป็นความจริงครับ
 ท่านก็เป็นคนหนึ่งที่สามารถทำรายได้จากการเขียนได้ดังบุคคลตัวอย่างข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถ ความขยันและการพัฒนางานเขียนของตนเอง ยิ่งในปัจจุบันการเปิดโอกาสในการสร้างรายได้จากงานเขียนยิ่งมีมาก เพราะในปัจจุบันมีนิตยสาร วารสาร หนังสือพิมพ์ จำนวนมากมาย ทั้งรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน รายปักษ์ มีทุกประเภททุกแนว
จากตัวอย่างและปัจจัยดังกล่าวข้างต้น ทำให้เห็นได้ว่าเราสามารถประกอบอาชีพนักเขียนได้ แต่ท่านผู้อ่านหลายๆท่าน คงมีความคิดที่สวนทางหรือได้รับข้อมูลจากอดีตว่า การเป็นนักเขียนมักไส้แห้งหรือไม่มีเงิน คำกล่าวเหล่านี้เป็นความจริงบางส่วน แต่ไม่ใช่ทั้งหมด หากว่างานเขียนของท่านขาดการพัฒนา งานเขียนของท่านไม่เป็นที่ต้องการของตลาด งานเขียนของท่านไม่สามารถเอาชนะใจบรรณาธิการได้ งานเขียนของท่านไม่สามารถรวมเล่มขายได้  คำว่า “ ไส้แห้ง ” อาจเป็นความจริงสำหรับท่าน แต่ถ้าหากว่า งานเขียนของท่านมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง งานเขียนของท่านมีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง งานเขียนของท่านเป็นที่ต้องการของตลาด งานเขียนของท่านสามารถเอาชนะใจบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ วารสาร นิตยสาร ได้  และงานเขียนของท่านมีสำนักพิมพ์ติดต่อเพื่อขอรวมเล่มขายได้  ท่านก็เป็นคนหนึ่งที่สามารถสร้างรายได้หรือความร่ำรวยหรือสร้างชื่อเสียงได้ดังนักเขียนที่ดังๆ เช่น ทมยันตี โบตั๋น สมคิด ลวางกูร ฯลฯ
สำหรับนักเขียนต่างประเทศที่สร้างรายได้มากมายมหาศาล ดังเช่น เจ.เค.โรว์ลิ่ง นักเขียนชุดนวนิยายแฟนตาซี      “ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ” นักเขียนที่เป็นระดับมหาเศรษฐีเลยทีเดียว นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2551 หนังสือชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์ ได้รับการพิมพ์ไปทั่วโลก มีการแปลเป็นภาษาต่างๆมากกว่า 67 ภาษา

เจ.อาร์.อาร์.โทลคีน ผู้แต่งหนังสือ เดอะลอร์คออฟเดอะริงส์ ได้สร้างรายได้จากการขายหนังสือเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีการแปลหนังสือเป็นภาษาต่างๆไม่น้อยกว่า 38 ภาษา อีกทั้งยังได้เงินค่าลิขสิทธิ์จากการนำหนังสือเรื่อง “เดอะลอร์คออฟเดอะริงส์” ไปทำเป็นภาพยนตร์อีกด้วย
                บุคคลดังกล่าวข้างต้นเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จในการเป็นนักเขียนอาชีพ อีกทั้งยังเป็นผู้มีรายได้มากมายมหาศาลจากงานเขียน ขอย้ำอีกครั้ง ท่านก็สามารถเป็นเช่นนั้น หากท่านมีความทะเยอทะยาน มีความมานะอดทน ต่อสู้มีความขยันขันแข็ง มีเป้าหมายในชีวิตว่าต้องการเป็นนักเขียนไม่ใช่เขียนแค่สิบเรื่องยี่สิบเรื่องหรือเขียนบทความแค่ 100 เรื่องแล้วไม่ประสบความสำเร็จก็ล้มเลิกไป อย่างนี้คงใช้ไม่ได้ หากต้องการความสำเร็จเราจะต้องไม่ยอมแพ้  ถึงแม้จะใช้เวลานานสักเท่าไร จะเขียนมากมายขนาดไหน เราจะต้องสู้จนกว่าจะเป็นนักเขียนมืออาชีพ
                ยอร์ช เบอร์นาร์ด ชอว์ นักประพันธ์ชื่อดังของโลกหรือนักอ่านทั่วโลกรู้จัก กว่าเขาจะประสบความสำเร็จ เขาต้องลำบากยากเย็นในชีวิตมาก เขาวางแผนว่าทุกวันเขาจะต้องเขียนหนังสือให้ได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 5 หน้ากระดาษ เขาต้องเขียนหนังสืออย่างต่ำวันละ 5 หน้ากระดาษ เขาได้ส่งผลงานเขียนของเขาไปยังสำนักพิมพ์ต่างๆ แต่ก็จนปฏิเสธ ท่ามกลางความผิดหวัง ท่ามกลางความล้มเหลว แต่เขาไม่ยอมแพ้เขาคงตั้งหน้าตั้งตาเขียนหนังสือทุกวันไม่ต่ำกว่า 5 หน้ากระดาษ ตลอดระยะเวลานานถึง 9 ปี เขามีรายได้น้อยมากๆเขาได้รายรับได้เพียงวันละเซนต์สองเซนต์ แต่เขาก็อดทนเขียนต่อไป จนในที่สุดภายหลัง 9 ปี แห่งความลำบาก เขาก็มีชื่อเสียงขึ้นมาเรื่อยๆ ผลงานของเขาก็เป็นที่ต้องการขึ้นเรื่อยๆ นี่ถ้าเขาหยุดเขียนตั้งแต่ปีที่ 5 ผู้อ่านทั่วโลกคงไม่ได้อ่านผลงานการเขียนของนักเขียนชื่อดังระดับโลกผู้นี้
                ดังนั้น หากท่านต้องการเป็นนักเขียนมืออาชีพหรือมีอาชีพนักเขียน ท่านต้องมีเป้าหมาย แล้วรีบลงมือทำทันที ลงมือเขียนเรื่องราวต่างๆ เขียนทุกวัน เขียนจนเป็นนิสัย  แล้วท่านจะเป็นคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จในการเป็นนักเขียนอาชีพหรือมีอาชีพนักเขียนในที่สุด

6 ความคิดเห็น:

  1. คุณโทนี่เริ่มเขียนหนังสือจริง ๆ ตั้งแต่อายุเท่าไหร่คะ?

    ตอบลบ
  2. ผมเริ่มฝึกเขียนนิดๆ หน่อยๆ ตอนทำการธนาคารฯ เมื่อ 18 ปีก่อน(เขียนบทความลงหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น 2 ฉบับ ต่อหนึ่งเดือนเอง) แล้ว ระยะ 5 ปี ที่ผ่านมาเริ่มเขียนแบบยังไม่จริงๆ และยังไม่จังๆๆ (ก็ต้องประมาณเดือนละ 15 ฉบับ โดยเฉลี่ย)เนื่องจากผมทำงานหลายด้านครับ จึงต้องทะยอยเขียนครับ ตอนนี้ก็อายุเกือบ 40 ปีแล้ว ไม่ต้องกังวลเรื่องอายุในการเขียนครับ แต่ขอให้เริ่มต้นครับ(ททท.หรือทำทันที) ตรงกันข้ามอายุยิ่งมากสำหรับผมยิ่งดีครับ เนื่องจากผ่านประสบการณ์และการอ่านมามากขึ้นกว่าอายุยังน้อย เป็นกำลังใจให้จ้า....

    ตอบลบ
  3. เราเป็นคนอ่านหนังสือเยอะมากเลยค่ะ ชอบอ่าน เคยวางพอตเรื่องเขียนหนังสือตอนอายุ 14 และเริ่มเขียนบ้าง จนปัจจุบันอายุ 26 แล้ว ยังเขียนไม่จบ เพราะขาดแรงบันดาลใจ(มั้ง) ตอนนี้มีผลงานลงนิตยสารรายเดือนนิดหน่อยเท่านั้น อยากเป็นนักเขียนที่มีหนังสือเป็นของตัวเองบ้างค่ะ
    รู้สึกคุณโทนี่จะมีหนังสือที่เขียนเองใช่ไหมคะเนี่ย ชื่ออะไรบ้างเอ่ย...

    ตอบลบ
  4. ครับ อายุยังน้อยครับ ยิ่งดีครับ ลงมือเขียนมากๆ ครับ แล้วจะประสบความสำเร็จครับ ผมมีหนังสือ 4 เล่ม 1.วาทะวาที ศาสตร์และศิลป์ทางการพูด 2.ศิลปะการขาย แง่มุมเกี่ยวกับการขาย 3.พูดอย่างมีกึ๋น และ 4.ครบเครื่องเรื่องนักบริหาร ครับ

    ตอบลบ
  5. คุณโทนี่เป็นนักจิตวิทยาหรือเปล่าคะ
    หนังสือน่าสนใจดีค่ะ
    ไม่ออกหนังสือเกี่ยวกับการเขียนบ้างหรือคะ
    เห็นเน้นไปทางด้านการพูดซะเยอะเลยนะ ^^

    ตอบลบ
  6. ครับ ผมชอบการพูด มากกว่าการเขียนครับ เลยเขียนหนังสือการพูดเป็นหนังสือออกมา..แต่อย่างไรจะลองพิจารณาดูครับ....

    ตอบลบ