ประโยชน์ของการเขียนมีมากกว่าที่คุณคิด
โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
เมื่อพูดถึงเรื่องประโยชน์ของการเขียนหลายๆ ท่าน คงคิดว่าประโยชน์ของการเขียน สามารถเป็นอาชีพได้ ทำรายได้ได้ ทำให้มีชื่อเสียง แต่แท้ที่จริงแล้ว ประโยชน์ของการเขียนนั้นมีมากมาย
การเขียนสามารถเปลี่ยนชีวิตของคุณได้ เพราะการเขียน เป็นกระบวนการเปลี่ยนความคิด ประสบการณ์ของผู้เขียนให้เป็นตัวอักษรเพื่อนำมาถ่ายทอดให้แก่ผู้อ่าน ฉะนั้นคนที่เขียนหนังสือทุกๆวัน อย่างสม่ำเสมอจะทำให้รู้จักตัวตนของตนเอง ว่าตนเองต้องการอะไรในชีวิต เมื่อค้นหาตัวตนเจอก็จะทำให้ผู้เขียนเกิดความสุขใจ สงบใจ และยิ่งเขียนมากขึ้นผู้เขียนก็จะพบปัญญาที่มีอยู่ในตัวของผู้เขียนเอง
การเขียนช่วยให้ท่านไม่ลืม ความจำมีประโยชน์ก็จริงอยู่ แต่มนุษย์ไม่สามารถจดจำทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมาในชีวิตของตนเองได้ การเขียนจะช่วยให้มนุษย์เราเกิดความจำขึ้น การเขียนจึงมีความสำคัญต่อความจำ เพราะหากไม่ได้เขียนหรือบันทึกไว้ มนุษย์เราก็มักจะลืมสิ่งต่างๆ ไป
การเขียนมีประสิทธิภาพมากกว่าการพูดในบางสถานการณ์ พวกเราตอนเด็กๆ หรือตอนอบรม คงมักเคยได้เล่นเกมส์การสื่อสาร ซึ่งผู้กำหนดเกมส์ มักแบ่งผู้เล่นออกมามากกว่า 2 กลุ่ม แล้วให้แข่งขันกัน โดยให้ผู้เล่นคนที่หนึ่งอ่านข้อความซึ่งเป็นประโยคที่เมื่ออ่านแล้วผู้อ่านเกิดความสับสน เป็นประโยคที่มักจะเล่นคำ แล้วให้ผู้เล่นคนที่หนึ่งกระซิบคนต่อๆไป จนถึงคนสุดท้าย ผลออกมาคือ ประโยคที่ให้อ่านเกิดความผิดพลาดไม่เหมือนเดิม แต่ในทางกลับกัน หากว่า ผู้กำหนดเกมส์ให้ผู้เล่นทุกคนได้อ่านข้อความประโยคนั้น โดยส่งจากคนที่หนึ่ง สอง สาม สี่ ไปจนถึงคนสุดท้ายให้อ่านข้อความประโยคนั้น ความผิดพลาดจะน้อยลง
การเขียนทำให้เกิดความอิสระขึ้นในการใช้ชีวิต หลายอาชีพมักจะต้องมี กฎ ระเบียบ ข้อจำกัดทางด้านเวลา แต่อาชีพนักเขียน จะทำให้เราไม่ต้องยุ่งวุ่นวายกับสิ่งเหล่านี้ เช่น ไม่ต้องแต่งตัวให้ยุ่งยาก ใส่กางเกงขาสั้น เสื้อยืด นุ่งผ้าขาวม้า คุณก็สามารถประกอบอาชีพนี้ได้ อีกทั้งไม่มีเงื่อนเวลา คุณจะทำงานเขียนกี่โมงก็ได้ แล้วแต่นักเขียนแต่ละคนจะเป็นผู้กำหนดเวลาดังกล่าว
การเขียนทำให้ประเทศเกิดการพัฒนา ก้าวหน้าขึ้น การเขียนจะช่วยให้ประชาชนในประเทศนั้นๆ มีนิสัยในการรักการอ่าน รักการเรียนรู้ มากขึ้น เมื่อประชาชนรักการอ่าน ก็จะทำให้เกิดความคิด ปัญญา มันสมอง ที่จะนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศให้รุ่งเรืองยิ่งขึ้นสืบไป
การเขียนช่วยในการจัดการองค์ความรู้ สังคมไทยเป็นสังคมที่ชอบพูด ชอบฟัง มากกว่าการชอบอ่าน ชอบเขียน แต่แท้ที่จริงแล้วประเทศที่เขาพัฒนาอย่างสหรัฐอเมริกา สังคมเขาจะมีนักคิด นักเขียน อยู่มาก กระผมเองได้มีโอกาสไปทำงานวิจัย และต้องสัมภาษณ์บุคคลต่างๆ หาเอกสารต่างๆ แต่ปรากฏว่า บุคคลที่ต้องสัมภาษณ์ได้เสียชีวิตไปแล้ว อีกทั้งเมื่อขอข้อมูลเอกสารต่างๆ จากญาตผู้ตาย ก็ไม่มีให้ ดังนั้น หากสังคมไทยในอดีต มีการเขียน มีการจดบันทึก มีการจัดการองค์ความรู้ ก็จะทำให้ผมมีเอกสารไปทำงานวิจัย ไปวิเคราะห์ สังเคราะห์ได้ดียิ่งขึ้น แต่ประเทศอเมริกา เขามีคนเขียนมากทำให้มีการต่อยอดองค์ความรู้ นักวิจัยของเขาสามารถไปหาอ่านงานเขียนของผู้ที่จะต้องสัมภาษณ์ นำมาเป็นข้อมูลได้ ถึงแม้บุคคลนั้นจะเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม
ดังนั้น การเขียนมีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด ในอดีตมีคนบอกว่า นักเขียนไส้แห้ง แต่ปัจจุบันความคิดนี้อาจต้องเปลี่ยนใหม่ เพราะ การเป็นนักเขียนที่ดี ที่เก่ง อาจสร้างตัวได้ถึงขั้นเป็น “ มหาเศรษฐี” ไปเลยก็มีให้เห็นแล้ว เช่น เจ.เค.โรว์ลิ่ง นักเขียนเจ้าของผลงาน “ แฮร์รี่ พอตเตอร์” หรือ คุณสมคิด ลวางกูร นักเขียนชาวไทยที่ร่ำรวยเงินทอง มีบ้าน มีรถ มีเงินมากมาย ก็จากงานด้านการเขียนหนังสือ จนคุณสมคิด ลวางกูร ต้องจัดอบรมในหัวข้อ “ สร้าง 100 ล้านจากการเขียนหนังสือ”
ถ้าไม่ได้เป็นนักอ่าน ไม่ควรคิดเป็นนักเขียน และหากเป็นนักเขียน ก็ควรเขียนเพื่อพัฒนาสังคม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น